เทคนิคการเลือกสินเชื่อ ให้ซื้อบ้านซื้อคอนโดผ่อนสบาย

Last updated: 23 พ.ค. 2566  |  966 จำนวนผู้เข้าชม  | 

เทคนิคการเลือกสินเชื่อ ให้ซื้อบ้านซื้อคอนโดผ่อนสบาย

ไม่ว่าจะเป็นบ้านหรือว่าคอนโด ก็ถือเป็นอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่มีมูลค่าสูงที่หากจะครอบครองได้นั้นส่วนใหญ่แล้วก็มักใช้วิธีการขอสินเชื่อกับทางธนาคารเพื่อกู้ซื้อด้วยกันทั้งสิ้น แต่อย่างไรก็ตาม แม้จะขอสินเชื่อกู้ซื้อบ้านไปแล้ว หากไม่พิจารณาเลือกสินเชื่อให้ดี ก็อาจทำให้เราไม่สามารถแบกรับภาระการผ่อนชำระหนี้ได้ไหว จนทำให้เกิดปัญหาตามมาภายหลังได้ ดังนั้น การพิจารณาเลือกสินเชื่ออย่างละเอียดรอบคอบ เลือกสินเชื่อที่เอื้อประโยชน์ต่อเรามากที่สุด จึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับคนที่กำลังวางแผนอยากซื้อบ้าน ซึ่งมีเทคนิคแนวทางในการเลือกสินเชื่อ ให้ซื้อบ้านซื้อคอนโดดได้แบบผ่อนสบาย ๆ ดังต่อไปนี้



เลือกสินเชื่อที่ให้ดอกเบี้ยต่ำที่สุด

ถือเป็นเกณฑ์การพิจารณาอันดับแรกที่ใช้คัดกรองสินเชื่อซื้อบ้านได้ง่ายที่สุด ก่อนจะลงไปพิจารณาในรายละเอียดส่วนอื่น ๆ โดยเราควรทำการตรวจสอบ ขอข้อมูลอัตราดอกเบี้ยของสินเชื่อกู้ซื้อบ้านจากหลาย ๆ ธนาคารมาเปรียบเทียบกัน ซึ่งธนาคารใดให้ดอกเบี้ยต่ำที่สุดนั้น ก็ถือเป็นตัวเลือกที่ดีในอันดับต้น ๆ ทั้งนี้ เพราะอัตราดอกเบี้ยมีผลโดยตรงต่อยอดการผ่อนชำระว่าจะสูงหรือต่ำมากแค่ไหน นอกจากนั้นแล้ว ข้อควรระวังในการเปรียบเทียบดอกเบี้ยสินเชื่อเงินกู้เพื่อการซื้อที่อยู่อาศัยก็คือ ควรคำนวณหาอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยตลอดระยะเวลาการให้กู้ เพราะบางธนาคารก็เลือกที่จะให้ดอกเบี้ยต่ำ ๆ ไว้ก่อนในช่วงแรก เพื่อดึงดูดให้ลูกค้ามาใช้บริการ แต่ในระยะเวลาต่อมาดอกเบี้ยจะปรับตัวสูงขึ้นไปจนสิ้นสุดระยะเวลาการให้กู้ ดังนั้น เมื่อรวมตลอดระยะเวลาการให้กู้แล้ว บางทีสินเชื่อที่ให้ดอกเบี้ยต่ำในช่วงแรก อาจไม่ได้ทำให้เราผ่อนบ้านผ่อนคอนโดได้ถูกที่สุดเสมอไปก็ได้


เลือกสินเชื่อที่ให้วงเงินกู้สูงสุด

วงเงินกู้สินเชื่อซื้อบ้านที่ได้รับ จะเป็นตัวบอกเราได้ว่าจะต้องควักเงินในกระเป๋าก้อนใหญ่มากแค่ไหนเพื่อจ่ายส่วนต่างเองในการซื้อบ้าน ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเราต้องการซื้อบ้านในราคาหลังละ 2,000,000 บาท ขอสินเชื่อจากธนาคารได้วงเงินสูงสุด 80% ก็เท่ากับเราจะได้เงินจากธนาคารมา 1,600,000 บาท แล้วที่เหลืออีก 400,000 บาทจะเป็นส่วนที่เราต้องจ่ายเอง เป็นต้น อย่างไรก็ตาม โดยปกติแล้ววงเงินกู้สูงสุดที่ธนาคารจะให้ได้นั้นจะอยู่ตั้งแต่ 70-100% ขึ้นกับเงื่อนไขการพิจารณาของแต่ละธนาคาร ซึ่งสถานะทางการเงินของผู้กู้เองก็มีส่วนสำคัญอย่างมากต่อการพิจารณาว่าจะให้วงเงินได้สูงแค่ไหน ดังนั้น จึงควรเตรียมความพร้อมเรื่องสถานะการเงินของตัวเราให้ดี ก่อนขอยื่นกู้กับทุกธนาคาร แล้วจึงค่อยพิจารณาเลือกอีกครั้งว่าธนาคารใดให้วงเงินในการกู้กับเราสูงที่สุด


เลือกสินเชื่อที่ให้ระยะเวลาในการผ่อนกู้ยาวนานที่สุด

หนึ่งในตัวแปรสำคัญของระยะเวลาในการผ่อนชำระที่ธนาคารจะให้กับผู้กู้ว่าจะให้ผ่อนได้นานเท่าไร ก็คืออายุของผู้กู้ หากผู้ขอกู้อายุมากแล้ว ก็อาจจะไม่ได้รับระยะเวลาในการผ่อนชำระนาน ทำให้ยอดภาระผ่อนต่องวดนั้นสูงมากขึ้น โดยปกติแล้วธนาคารส่วนใหญ่จะกำหนดระยะเวลาในการให้กู้ไว้ที่ 15-30 ปี หรือมากกว่านั้นก็ได้ แล้วแต่เงื่อนไขที่กำหนด ซึ่งอายุของผู้กู้จะกำหนดไว้ไม่เกิน 70 ปี ดังนั้น การวางแผนขอสินเชื่อกู้ซื้อบ้าน จึงควรมีกำหนดช่วงอายุของตัวเองที่เหมาะกับการกู้ซื้อบ้านไว้ด้วย เพราะถ้าเราไปขอกู้ซื้อบ้านในตอนอายุมาก ๆ แล้ว ยอดภาระในการผ่อนก็อาจจะสูงจนรับไม่ไหวได้ เนื่องจากระยะเวลาในให้ผ่อนนั้นไม่ยาวนานมากพอ


เลือกขอสินเชื่อกับธนาคารที่ให้ปรับโครงสร้างหนี้ได้

เราต้องไม่ลืมว่าการขอสินเชื่อเพื่อกู้ซื้อบ้านหรือคอนโดนั้น เมื่อได้รับการอนุมัติจากธนาคารแล้ว เราจะต้องอยู่กับภาระจากสินเชื่อนั้นไปยาวนานอย่างน้อยก็เป็นสิบ ๆ ปี ซึ่ง ณ วันที่เราตัดสินใจกู้ซื้อบ้านกับระยะเวลาหลังจากนั้น สถานะการเงินของเราก็อาจเปลี่ยนแปลงไปไม่เหมือนเดิม โดยอาจเป็นได้ทั้งดีขึ้นหรือแย่ลงก็ได้ ด้วยเหตุนี้เอง การเลือกธนาคารที่ให้ความยืดหยุ่นกับเราในการปรับโครงสร้างหนี้ได้ จึงตอบโจทย์กับจังหวะชีวิตและสถานะการเงินของเราได้มากกว่า เช่น สามารถขอขยายเวลาการชำระหนี้ออกไปได้ ทำให้งวดผ่อนต่อเดือนเบาลง ขอลดอัตราดอกเบี้ยได้เพื่อแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่าย หรือในกรณีที่เรามีเงินก้อนอยากโปะหนี้ให้หมดเร็วขึ้น ก็สามารถทำได้ ขอส่วนลดดอกเบี้ยได้ ตลอดจนหากถึงจังหวะวิกฤตที่ไม่สามารถชำระหนี้ได้จริง ๆ ก็ขอพักชำระหนี้ได้ภายใต้เงื่อนไขที่ดีที่สุด เป็นต้น


ในความเป็นจริงแล้วยังมีปัจจัยอื่น ๆ ในการพิจารณาเลือกสินเชื่ออยู่อีก เช่น ค่าธรรมเนียมในการดำเนินการต่าง ๆ ตลอดจนเงื่อนไขดอกเบี้ยปรับเพิ่มสำหรับการผิดนัดชำระ ฯลฯ ซึ่งแสดงให้เราเห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่าการเลือกสินเชื่อในการกู้ซื้อบ้านนั้นมีรายละเอียดสำคัญที่ต้องใส่ใจ เพื่อให้เราได้สินเชื่อที่ตอบโจทย์และเป็นประโยชน์ต่อการผ่อนชำระของเรามากที่สุด ดังนั้น เมื่อตัดสินใจแล้วว่าจะวางแผนซื้อบ้านซื้อคอนโด จึงไม่ควรรีบร้อนด่วนตัดสินใจ ควรให้ความสำคัญกับการพิจารณาหาข้อมูลเปรียบเทียบอย่างละเอียด สอบถามข้อสงสัยที่ไม่เข้าใจ ตลอดจนซักถามถึงสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ที่เราพึงได้กับทางธนาคารให้ได้มากที่สุด เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาให้เราได้สินเชื่อที่ดีที่สุด

เครดิต : ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้